การฉีดคอลลาเจนเสี่ยงอันตรายได้

คอลลาเจน อาหารเสริมที่ช่วยบำรุงผิวพรรณที่ผู้บริโภคหลายคนนิยมซื้อรับประทานในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจนมาถึงปัจจุบันก็ยังมีแบรนด์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาเรื่อย ๆ เนื่องด้วยเป็นอาหารเสริมที่อยู่ในรูปแบบเม็ดหรือผงชงดื่ม ทำให้สามารถรับประทานได้ง่ายและสะดวก โดยตัวคอลลาเจนเสริมนั้นจะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนในร่างกาย ทำให้ผิวพรรณกลับมากระชับ เต่งตึง ฟื้นฟูผิวพรรณ ลดเลือนริ้วรอย รอยดำ รอยแดงต่าง ๆ จางลง ให้ผิวพรรณกระจ่างใส

ซึ่งนอกเหนือจากการทานคอลลาเจนแบบผงชงดื่มและแบบเม็ดแล้ว ยังมีอีกวิธีที่หลายคนนิยมนำคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายก็คือ การฉีดคอลลาเจน แต่ที่จริงแล้วการฉีดคอลลาเจนนั้นทีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายได้ ไม่เคยได้รับการอนุญาตให้ขึ้นทะเบียนตำรับยาแต่อย่างใด และไม่ได้การรับรองความปลอดภัยในการนำไปใช้ โดยอันตรายที่เกิดขึ้นจากการฉีดคอลลาเจนมีดังต่อไปนี้

คอลลาเจนคืออะไร

คอลลาเจนคือ โปรตีนสายาวชนิดหนึ่งซึ่งเป็นโปรตีนธรรมชาติที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของผิวหนัง โดยทำหน้าที่ยึดเกาะเซลล์ผิวหนัง เอ็น ข้อต่อ พังผืดและกล้ามเนื้อตลอดจนผนังหลอดเลือดให้ติดแน่นสนิท มีผลให้ผิวหนังแลดูเต่งตึง เพราะคอลลาเจนทำหน้าที่เชื่อมเซลล์ในร่างกายเข้าด้วยกัน โดยเซลล์ผิวหนังในร่างกายจะมีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบถึง 75% ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการทำให้ผิวดูชุ่มชื้น นุ่มนวล เต่งตึง กระชับ ไม่เหี่ยวย่น ไม่มีริ้วรอยและรอยตีนกา อีกทั้งยังช่วยเติมเต็มผิวที่หย่อนคล้อย ให้กลับมาเรียบตึง

แต่เมื่อคนเราเริ่มมีอายุมากขึ้น การสร้างคอลลาเจนในร่างกายก็จะเริ่มลดลงเรื่อย ๆ ตามอายุที่เพิ่มขึ้น และปัจจัยอื่น ๆ ก็สามารถทำให้ร่างกายสูญเสียคอลลาเจนในร่างกายได้เช่นกัน อาทิ แสงแดด การพักผ่อนไม่เพียงพอ สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ ล้วนเป็นตัวการสำคัญในการทำลายคอลลาเจน ส่งผลให้ร่างกายเกิดริ้วรอยต่าง ๆ ขึ้นบนใบหน้า ผิวพรรณเริ่มหย่อนคล้อย ไม่เต่งตึง กระชับเหมือนตอนวัยรุ่น

คอลลาเจนเปปไทด์ คืออะไร

คอลลาเจนเปปไทด์ (Collagen Peptide) คือคอลลาเจนที่ได้ผ่านการย่อยด้วยกรดจนได้คอลลาเจนที่มีอนุภาคเล็กที่สุด ซึ่งถ้าหากเป็นสารอาหารที่มีอนุภาคขนาดใหญ่ ก็จะทำให้ร่างกายนั้นไม่สามารถดูดซึมไปใช้ได้ทั้งหมด ดังนั้นคอลลาเจนที่ยังไม่ได้ผ่านกระบวนการการย่อยด้วยกรดนั้น จะทำให้มีอนุภาคที่ใหญ่ ส่งผลให้ร่างกายนั้นไม่สามารถดูดซึมเอาไปใช้ได้ในปริมาณที่ต้องการ

ดังนั้นคอลลาเจนเปปไทด์ที่มีอนุภาคเล็กกว่า ร่างกายจึงสามารถดูดซึมนำไปใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งคอลลาเจนเปปไทด์ที่ถูกสกัดมาจากวัว หมูและปลาทะเลน้ำลึกนั้น เรียกได้ว่าเป็นคอลลาเจนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดนั่นเอง

กิน ทา หรือฉีด คอลลาเจนดี

เนื่องจากว่าคอลลาเจนมีโมเลกุลขนาดใหญ่ การที่จะใช้คอลลาเจนมาทาผิวเพื่อบำรุงนั้นแทบจะไม่ได้ผลอะไรเลย เพราะว่าผิวดูดซึมคอลลาเจนได้ยาก ดังนั้นวิธีที่จะช่วยให้คอลลาเจนถูกดูดซึมเข้าไปสร้างประโยชน์ให้กับผิวได้นั้น ควรจะเป็นการฉีดและการกินเข้าสู่ร่างกายมากกว่า แต่การฉีดก็เป็นสิ่งที่มีความยุ่งยาก และอาจมีความเสี่ยงจากความผิดผลาดในการฉีด และการเกิดอาการแพ้ การกินจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คนส่วนใหญ่เลือก เพื่อจะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนในร่างกาย

อันตรายจากที่ฉีดคอลลาเจน

  • เกิดความเสี่ยงต่อการแพ้สารคอลลาเจน ซึ่งอาจจะประกอบไปด้วยสารชนิดอื่นร่วมด้วย ร่างกายนั้นจะเห็นคอลลาเจนเป็นสารแปลกปลอม แม้จะทำการสังเคราะห์ให้มีความใกล้เคียงกับคอลลาเจนใต้ชั้นผิวก็ตาม แต่การแพ้นั้นก็สามารถเกิดขึ้นได้ โดยระดับความรุนแรงของการแพ้นั้นขึ้นอยู่กับบุคคล ซึ่งผลของการอาการแพ้อาจจะเกิดในทันทีหลังฉีด หรือภายหลังจากนั้นเป็นสัปดาห์ไปแล้วก็ได้
  • ปฏิกิริยาที่ทำการเกิดซ้ำ หรือที่เรียกว่า Trauma เป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการฉีด ปลายเข็มที่ดันเอาสารคอลลาเจนเข้าไปในบริเวณดังกล่าวจะเกิดเป็นรอยแดง หรือรอยเขียวซ้ำ อาจเกิดอาการเจ็บ แสบ และบวมตามมาได้ แต่โดยทั่วไปนั้นสามารถหายไปได้เองภายใน 3 – 7 วัน
  • เกิดตุ่มนูนบริเวณผิว จนทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน เกิดขึ้นจากที่ผู้ฉีดไม่มีความเชี่ยวชาญมากพอ อาจจะฉีดในตำแหน่งที่ตื้นเกินไป หรือใช้ความเข้มข้นของคอลลาเจนมากเกินไป ผิวที่เป็นตุ่มนูนนั้นเสี่ยงต่อการติดเชื้อ อักเสบและลุกลามเข้าสู่กระแสเลือดตามมาได้

แหล่งที่มา : www.คอลลาเจนเปปไทด์.net


จำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพและปรนนิบัติผิว ด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ คอลลาเจน  |  วิตามินซี  |  อาหารเสริม