ความสัมพันธ์ของวิตามินซีกับกระดูก

ความสัมพันธ์ของวิตามินซีกับกระดูก

หลายคนอาจจะคิดว่าวิตามินซีนั้นมีส่วนช่วยในแค่เรื่องผิวพรรณหรือเสริมสร้างภูมิคุ้มเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้ว วิตามินซีไม่ได้มีแค่นั้น เพราะจริง ๆ แล้ววิตามินซีมีความสัมพันธ์กับกระดูกด้วย ว่าแต่วิตามินซีจะมีความสัมพันธ์กับกระดูกอย่างไรนั้น เราไปดูกันดีกว่า

ความสัมพันธ์ของวิตามินซีกับกระดูก

วิตามินซีเป็นสารสำคัญในการสร้างโปรตีนชนิดหนึ่งทีเรียกว่า คอลลาเจน ซึ่งคอลลาเจนมีหน้าที่สำคัญในการสร้างกระดูก กล่าวคือ คอลลาเจนทำหน้าที่ในการยึดเซลล์กระดูกเข้าด้วยกัน ดังนั้นหากร่างกายขาดวิตามินซี จะส่งผลกระตบต่อการสร้างคอลลาเจนและส่งผลต่อสุขภาพกระดูกอย่างแน่นอน

วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดี

วิตามินซีได้ชื่อว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของการอักเสบ ซึ่งการอักเสบนั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้สูญมวลกระดูก ดังนั้นเราจึงสามารถกล่าวได้ว่า วิตามินซีเป็นสารที่ช่วยต่อต้านการสูญเสียมวลกระดูก สามารถป้องกันและลดความเสี่ยงในการเป็นโรคกระดูกพรุนได้นั่นอง

วิตามินซีเท่าไหร่จึงจะเพียงพอ

  • ปริมาณวิตามินซีสำหรับผู้ชายวัยผู้ใหญ่ (19 ปีขึ้นไป) คือ 90 มิลลิกรัมต่อวัน
  • ปริมาณวิตามินซีสำหรับผู้หญิงวัยผู้ใหญ่ (19 ปีขึ้นไป) คือ 75 มิลลิกรัมต่อวัน

หากกเป็นคนที่สูบบุหรี่ด้วยให้เพิ่มเข้าไปอีกวันละ 35 มิลลิกรัม

ข้อมูลตามมาตราฐาน RDAs ( Recommended Dietary Allowances คือ ปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้แต่ละคนได้รับในแต่ละวัน ซึ่งปริมาณที่กำหนดนี้จะเป็นปริมาณที่ครอบคลุมถึงร้อยละ 98 ของประชากร)

อาหารเสริมวิตามินซีจำเป็นหรือไม่

วิตามินซีเป็นสารอาหารที่มีมากอยู่ในผักผลไม้หลายชนิด หากเราดูแลการกินให้เป็นไปตามหลักโภชนาการได้แล้ว การใช้อาหารเสริมอาจไม่ใช่เรื่องจำเป็น

อย่างไรก็ตาม ยังมีคนบางกลุ่มที่จำเป็นต้องได้รับวิตามินซีในรูปแบบของอาหารเสริม ได้แก่กลุ่มคนดังต่อไปนี้

  • คนที่สูบบุหรี่หรือได้รับควันบุหรี่มือสองเป็นประจำ เพื่อให้ร่างกายนำไปใช้ในการต้านอนุมูลอิสระที่เกิดจากการสูบบุหรี่ (การสูบทำให้กระดูกพรุน)
  • คนที่ไม่ค่อยชอบทานผักผลไม้
  • คนที่ชอบทานอาหารซ้ำ ๆ
  • คนที่ป่วยด้วยโรคหรืออาการบางอย่างเช่น โรคระบบการดูดซึมผิดปกติ โรคมะเร็งบางชนิด ผู้ป่วยโรคไตที่ต้องฟอกไตเป็นประจำ
  • ผู้ที่มีความเครียดอยู่เป็นประจำ

อาหารเสริมวิตามินซี เลือกใช้แบบไหนดี

อาหารเสริมวิตามินซีตามท้องตลาดแม้จะมีอยู่หลากหลาย แต่สามารถแบ่งได้ 3 ประเภทดังนี้

  • วิตามินซีสังเคราะห์ (Synthetic Vitamin C) เป็นวิตามินซีที่สร้างขึ้นโดยใช้กระบวนการทางเคมีในห้องแลป วิตามินซีประเภทนี้มีชื่อเรียกว่า Ascorbic Acid ดังนั้น เวลาที่ซื้ออาหารเสริมวิตามินซีให้อ่านดูที่ฉลากหากมีชื่อสารชนิดนี้เป็นส่วนผสม แนะนำให้หลีกเลี่ยงการซื้อมาบริโภค
  • วิตามินซีสารสกัด (Extracting Vitamin C) เป็นวิตามินซีที่ได้จากการสกัดจากวัตถุดิบจากธรรมชาติ เช่น ราสเบอร์รี่ แคนเบอร์รี่ อะเซโรล่าเชอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ เป็นต้น ซึ่งผลไม้ตระกูลเชอร์รี่เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง จึงถูกนำมาเป็นวัตถุดิบในการสกัดวิตามินซี
  • วิตามินซีในรูปแบบอาหาร (Whole Food Vitamin C) เป็นวิตามินซีที่ผลิตจากการนำจุลินทรีย์ชนิดดีมาเลี้ยงด้วยอาหารและเอนไซม์บางชนิด เพื่อให้ได้อาหารเสริมวิตามินซีในรูปแบบอาหารที่มีระดับวิตามินซีสูง

อาหารเสริมวิตามินซีที่ดี คือ อาหารเสริมวิตามินซีที่มีความเป็นธรรมชาติมากหรือใกล้เคียงกับอาหารปกติ เพราะร่างกายดูดซึมได้ดีและนำไปใช้ประโยชน์ได้ง่าย ดังนั้นแนะนำให้เลือกทานอาหารเสริมวิตามินซีในรูปอาหาร (Whole Food Vitamin C) รองลงมา คือ วิตามินซีสารสกัด (Extracting Vitamin C) ไม่แนะนำให้ใช้วิตามินซีแบบสังเคราะห์ (Synthetic Vitamin C)

แหล่งที่มา : boneandjointnopain.com


จำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพและปรนนิบัติผิว ด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ คอลลาเจน  |  วิตามินซี  |  อาหารเสริม