ทำไมคอลลาเจนผงถึงดีกว่าคอลลาเจนเม็ด

คอลลาเจนเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน จึงทำให้มีคอลลาเจนเสริมแบรนด์ต่าง ๆ ออกมาจำหน่ายจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว โดยคอลลาเจนเหล่านั้นมีทั้งคอลลาเจนแบบผง แบบเม็ดหรือแคปซูล แต่ที่มักจะเห็นตามท้องตลาดก็จะเป็นคอลลาเจนผงและคอลลาเจนเม็ด โดยเฉพาะคอลลาเจนผงที่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภค จนมีผู้บริโคหลายคนตั้งคำถามว่าทำไมคอลลาเจนผงถึงดีกว่าคอลลาเจนเม็ด วันนี้เทรนดี้ เฮลท์มีคำตอบมาฝากกัน

ความแตกต่างกันระหว่างคอลลาเจนผงและคอลลาเจนเม็ด

สิ่งแรกเลยที่ต้องรู้ที่คือ คอลลาเจนทั้งสองประเภทนั้นมีความแตกต่างกัน ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ภายในเท่านั้น แต่ยังยังมีความแตกต่างอีกหลายด้าน ซึ่งมีดังนี้

ปริมาณ

• แบบผง : ไม่มีข้อกำหนดในเรื่องของปริมาณ ผู้บริโภคสามารถเลือกปริมาณได้ตามใจชอบ อีกทั้งยังสามารถเพิ่มวิตามินเสริมอื่น ๆ ได้อีกด้วย
• แบบเม็ด : มีข้อจำกัดในการผลิต ยิ่งปริมาณของสารสกัดต่าง ๆ เยอะ เม็ดก็จะยิ่งใหญ่มากขึ้น อาจทำให้รับประทานได้ยาก

การดูดซึม

• แบบผง : ร่างกายสามารถดูดซึมได้ไว เพราะด้วยโมเลกุลขนาดเล็ก จึงสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย
• แบบเม็ด : ต้องรอให้เม็ดหรือแคปซูลละลายในกระเพาะอาหารอย่างน้อย 30 นาทีก่อนที่จะข้าสู่ขั้นตอนการดูดซึม

รสชาติ

• แบบผง : มีรสชาติให้เลือกหลากหลาย ทำให้รับประทานได้ง่าย
• แบบเม็ด : ส่วนใหญ่ไม่มีรสชาติ อาจจะติดขม หรือไม่มีรสชาติเลย

ความสะดวก

• แบบผง : พกพาลำบาก หากผลิตภัณฑ์เป็นแบบกระป๋อง แต่ปัจจุบันก็มีแบบซองจำหน่ายทำให้สะดวกมากขึ้น
• แบบเม็ด : ส่วนใหญ่พกพาง่ายและสะดวก สามารถใส่กระเป๋าได้สบาย ๆ

การดูแลผลิตภัณฑ์

• แบบผง : มีโอกาสชื้นสูง เนื่องจากต้องเปิด-ปิดบรรจุภัณฑ์อยู่ทุกวัน
• แบบเม็ด :ไม่ต้องห่วงเรื่องการเก็บรักษาเพราะมีการอัดสุญญากาศที่มิดชิดอยู่แล้ว

ประสิทธิภาพ

• แบบผง : เห็นผลลัพธ์ไว เห็นผลการเปลี่ยนแปลงชัดขึ้นภายในระยะเวลาอันสั้นเมื่อเทียบกับชนิดเม็ด
• แบบเม็ด : เห็นผลค่อนข้างช้า เพราะด้วยปริมาณอาจไม่เพียงพอต่อวันและต้องใช้เวลาในการดูดซึม

ทำไมคอลลาเจนผงถึงดีกว่า

อยากที่กล่าวไปข้างต้นว่าในปัจจุบันแบรนด์คอลลาเจนต่าง ๆ ส่วนมากมักจะเป็นคอลลาเจนผง จึงทำให้ผู้บริโภคหลายคนมีความสงสับว่าคอลลาเจนผงนั้นดีกว่าคอลลาเจนเม็ดอย่างไร เรามาดูกัน

• รับประทานง่าย : คอลลาเจนแบบผงนั้นมีรสชาติในเลือกหลากหลาย หากไม่ชอบกลิ่นคาวที่สามารถชงกับน้ำผลไม้ให้รับประทานได้ง่ายขึ้นได้อีกด้วย
• ได้รับปริมาณที่เพียงพอ : ปกติแล้วร่างกายควรได้รับคอลลาเจน 5,000 มิลลิกรัมต่อวัน โดยคอลลาเจนผงส่วนใหญ่นั้นมักมีปริมาณคอลลาเจนที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายเช่นกัน
• ดูดซึมไว : คอลลาเจนผงสามารถละลายได้ง่าย และด้วยเป็นโมเลกุลขนาดเล็ก ร่างกายจึงสามารถดูดซึมได้ไวและนำไปใช้งานได้ง่ายมากขึ้น
• เห็นผลดีและไวที่สุด : การบริโภคคอลลาเจนแบบผงเป็นประจำอย่างน้อย 2 เดือนขึ้นไป สภาพผิวหนังนั้นมีรู้สึกชุ่มชื้นอย่างเห็นได้ชัด ริ้วรอยตื้นขึ้น เล็บ ผมและข้อต่อกระดูกให้แข็งแรงมากขึ้นด้วย เมื่อเทียบกับการทานคอลลาเจนแบบเม็ด

แหล่งทที่มา : kinpla.net

จำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพและปรนนิบัติผิว ด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ คอลลาเจน  |  วิตามินซี  |  อาหารเสริม